รายละเอียด
ดาวน์โหลด Docx
อ่านเพิ่มเติม
งั้นบางทีเราอาจจะปล่อยให้ ชาวตะวันตกหรือชาวคอเคเซียน ถามอะไรบางอย่างก็ได้ คุณนิวแมนไหม? หรือคุณชายที่มีอายุ? มีคำถามเพิ่มเติมไหม? เพราะถ้าปล่อย ให้คนจีนถามฉัน พวกเขาจะถามฉัน จนถึงปีหน้า พวกเขาจะไม่มีวันเสร็จ พวกเขากระหายความรู้มาก ชาวจีน คุณต้องการมันมั้ย? ให้ใครสักคน ไปช่วยเหลือพวกเขา มีใครอยากถามมั้ย? ไม่เช่นนั้น คุณรอนานมาก และคุณไม่ถามอะไรฉันเลย คุณอาจแค่กำลัง รออาหารมื้อเที่ยงอยู่ นั่นคือสิ่งที่มันเป็น แล้วทำไมไม่บอกตั้งแต่แรกล่ะ? เราจะได้ไม่ต้องทำอะไรเลย ตรงไปที่ [ข้าวเที่ยง] เลย โอเค (ท่านเพิ่งอธิบาย เรื่องนอกรีตไปแล้ว) ใช่ (ตอนที่ฉันได้อ่าน “พระพุทธประวัติ ของพระศากยมุนีพุทธเจ้า” มีการกล่าวว่า ก่อนที่พระพุทธเจ้าจะรู้แจ้ง พระองค์ได้ปราบ ความไม่รู้ 96 ประเภท นั่นเป็นความจริงหรือไม่คะ? แล้วพระองค์เป็นพระพุทธเจ้า ยังกล่าวถึง เรื่องที่พระองค์ได้ทรงต่อสู้ กับอสูรโบซุน (ปาปิยาส) ด้วย ท่านจะอธิบายเรื่องนั้นยังไงหรือคะ?) พวกเขาไม่ใช่พวกนอกรีต แต่เป็นเพียงภาพลวงตา ผู้คนมักจะแปลผิดเสมอ มีหลายเรื่องมากมาย ที่ได้รับการแปลผิด นั่นหมายความว่าพระองค์เอง ต้องต่อสู้กับภาพลวงตา อคติ และความเข้าใจผิดของพระองค์เอง และกำจัดสิ่งเหล่านั้นทั้งหมด เช่น ฉันมีลูกศิษย์หลายคน ที่เดินตามรอยฉัน พวกเขาไม่เคยมีประสบการณ์ ทาง [จิตวิญญาณ] เลย ไม่เคยเชื่อในศาสนาใด ๆ ไม่เคยมีประสบการณ์ การรู้แจ้งใด ๆ และไม่รู้จักวิธีการทำสมาธิ พวกเขาไม่ได้เป็นวีแกนด้วยซ้ำ แล้วฉันก็สอนพวกเขาจากเอบีซี ประการแรก เป็นวีแกน รักษาศีล งดเว้นจากการฆ่า และการโกหก เป็นพลเมืองที่ดี เป็นสามีหรือภรรยาที่ดี เป็นบุตรที่ดี และมีความกตัญญูต่อบิดามารดา จงรักภักดีต่อผู้นำประเทศ และรักชาติ เป็นต้น การทานวีแกนคือการช่วย ปลูกฝังความเมตตาของคุณ แล้วฉันจะให้การรู้แจ้งแก่คุณ ฉันช่วยให้คุณรู้จัก ที่แห่งการรู้แจ้งของคุณทันที ไม่ใช่ทุกคนจะเชื่อทันทีว่า สิ่งที่อาจารย์พูดเป็นความจริง ในตอนแรกพวกเขายังคงมีข้อสงสัย เนื่องจากพวกเขามีความคิดเห็น มากมายเกี่ยวกับว่า อาจารย์ควรเป็นอย่างไร เช่น มีเคราที่ยาวขนาดนี้ หรือสูงขนาดนี้ เป็นต้น ทุกคนต่างก็มีอคติของตัวเอง นอกจากนี้ พวกเขาอาจอ่านหนังสือ และพระคัมภีร์มากมาย ถ้าสิ่งที่ฉันพูดแตกต่าง จากความเข้าใจของพวกเขา พวกเขาอาจคิดว่าฉันผิด แต่ความจริงแล้วพวกเขาเข้าใจผิด อย่างนั้นเป็นต้น จึงต้องใช้เวลานานมาก ก่อนที่ พวกเขาจะเข้าใจได้อย่างสมบูรณ์ เช่นเดียวกับพระศากยมุนีพุทธเจ้า ในสมัยพุทธกาล พระองค์ต้องตัดสิ่งที่เรียกว่า อุปสรรคกีดขวาง ความคิดนอกรีต ความลวงตา ที่ชั่วร้าย ฯลฯ ทั้งหมดออกไป ฉันก็เคยผ่านเรื่องนั้นมาแล้ว ฉันไม่ได้เข้าใจทุกสิ่งทันที หลังจากการรู้แจ้ง ฉันใช้เวลาหลายปี ฉันต้องต่อสู้กับ ความเข้าใจผิดของตัวเอง ฉันต้องอธิบายให้ตัวเองฟัง หรือถามอาจารย์ผู้รู้แจ้ง เสียก่อน จึงจะเข้าใจได้อย่างสมบูรณ์ เหมือนแต่ก่อน ตอนที่ฉันเพิ่งรู้แจ้ง ฉันคิดว่าฉันควรจะโกนศีรษะ เพราะคิดว่า การไว้ผมยาวแบบคุณนั้นไม่ดี หลังจากนั้น ฉันก็คิดว่า “มันไม่มีอะไร เกี่ยวข้องกับการรู้แจ้งเลย” ฉันเองก็ต้องกำจัดภาพลวงตา อุปสรรคที่เลวร้าย และอคติของตัวเองออกไปด้วย มีเรื่องไร้สาระมากมาย ที่ผูกมัดเราไว้ที่นี่ มีคำถามเพิ่มเติมไหม? คุณพอใจหรือยัง? (มีอีกคำถามหนึ่งค่ะ) (ขอบพระคุณค่ะ) (เช่น เราชาวจีนชอบพูดว่า “แสดงหัวใจให้เห็นธรรมชาติ ของตน”) ใช่ (ท่านมีคำอธิบายพิเศษ เกี่ยวกับ "แสดงหัวใจให้เห็นธรรมชาติ ของตนเอง" ไหมคะ?) มันเพียงแค่หมายถึง การรู้แจ้งทันที ณ เวลานั้น คุณจะเห็นหัวใจของตนเองและรู้แจ้ง ถึงธรรมชาติดั้งเดิมของตนเอง มันหมายถึงสิ่งเดียวกัน การรู้แจ้งทันที การรู้แจ้งฉับพลัน และ "เข้าใจหัวใจของคุณ และเห็นธรรมชาติของคุณ" ล้วนเป็นสิ่งเดียวกัน (แล้วเมื่อผู้รู้แจ้ง เห็นหัวใจตนแล้ว หัวใจของเขามีลักษณะอย่างไรคะ?) มันใหญ่ขนาดนี้ น้ำหนักประมาณสองกิโลกรัม และมันเป็นสีแดง โอเค คุณพอใจหรือยัง? คุณรู้คำตอบอยู่แล้ว ทำไมจึงถามคำถามโง่ ๆ เช่นนั้น คุณต้องการให้ฉันตอบ คุณแบบโง่ ๆ เหรอ? (ท่านอาจารย์คะ นั่นไม่ใช่คำตอบค่ะ) ใช่ ไม่แน่นอน (เพราะฉะนั้นฉันอยากได้ยิน คำตอบที่แท้จริงของท่านค่ะ) มันตอบไม่ได้ คุณถามฉันเกี่ยวกับบางสิ่ง ที่ไม่สามารถอธิบายเป็นคำพูดได้ บางสิ่งที่จับต้องไม่ได้ และไม่สามารถพูดคุยได้ แต่คุณต้องการให้ฉัน อธิบายด้วยคำพูด ด้วยท่าทาง และอธิบายเป็นภาษา นั่นมันไม่สมเหตุสมผลไม่ใช่หรือ คุณไม่รู้เรื่องนี้อยู่แล้วเหรอ? แล้วคุณยังคงถามคำถามไร้สาระ เพื่อกวนใจฉัน เหมือนกับว่าคุณไม่มีอะไรดีกว่า ที่จะทำ (ท่านอาจารย์คะ) หรือแค่เสียเวลา? (เราไม่ได้ตั้งใจ จะถามคำถามไร้สาระ ฉันถามคำถามเชิงปฏิบัติค่ะ) ฉันรู้ ฉันแค่ล้อเล่นกับเธอ (“ความไม่รู้” ที่มักกล่าวถึง ในพระพุทธศาสนาบ่อยครั้ง คืออะไรหรือคะ?) ใช่ เข้าใจ (ความไม่รู้หมายถึงอะไร เหรอคะ?) ใช่ คำว่า "ความไม่รู้" ในภาษาจีนมีตัวอักษรอยู่สองตัว ตัวอักษรตัวแรกหมายถึง "ไม่" และตัวที่สองหมายถึง "เข้าใจ" ดังนั้นเมื่อรวมกัน ก็แปลว่า "ไม่เข้าใจ" คุณไม่เข้าใจอะไรเลย คุณไม่รู้ว่า คุณมาจากไหน ทำไมคุณถึงอยู่ที่นี่ และคุณจะไปที่ไหนหลังจากตาย คุณไม่เข้าใจอะไรเลย นั่นเรียกว่า “ความไม่รู้” สิ่งที่ตรงข้ามกับสิ่งนั้น เรียกว่า “ความเปิดใจกว้าง” หรือ “การรู้แจ้ง” ทั้งหมดเกี่ยวกับความเข้าใจ ใช่ไหม? (แล้วพระเจ้าก็ทรงรู้แจ้งไหมคะ?) พระองค์ทรงรู้แจ้ง เพราะพระองค์ทรงตระหนักดี พระองค์ทรงทราบว่า โลกแห่งมายานี้ไม่ดีต่อเรา แต่พระองค์ทรงปล่อยให้เป็นเช่นนี้ – ทำให้เรามีความทุกข์ แปลว่า พระองค์ทรงเข้าใจ พระองค์ทำมันอย่างตั้งใจ คุณจึงเรียกพระองค์ว่าเป็นผู้รู้แจ้ง ฉันอยากดูแลผู้คนมากกว่า ผู้คนมีความโชคร้ายมากกว่า ส่วนพระเจ้า อย่ากังวลเกี่ยวกับพระองค์ ทุกคนต่างก็บูชาพระองค์ เราควรจะดูแล กิจของเราเองจะดีกว่า เพราะคุณถามฉัน ฉันถึงตอบแบบนั้น ตอนที่ฉัน คุยกับชาวตะวันตก ฉันไม่ได้บอก ให้พวกเขาละทิ้งพระเจ้า จริง ๆ แล้ว เราไม่จำเป็นต้องลดพระองค์ลง และเราก็ทำไม่ได้เช่นกัน พระองค์ทรงอยู่ทุกที่ พระองค์ทรงอยู่ภายในตัวเรา เราไม่สามารถละทิ้งพระองค์ไปได้ ฉันแค่หมายถึง... ฉันหมายถึง เพราะฉันกำลังตอบคำถามของคุณ ฉันคิดว่าฉันน่าจะทำให้ บรรยากาศผ่อนคลายลงเล็กน้อย แค่เรื่องตลกนิดหน่อย พระเจ้านั้นโอเค พระองค์นั้นโอเค นี่คือสิ่งที่พระองค์เป็น เราไม่สามารถ วิพากษ์วิจารณ์พระองค์ได้ ที่จริง เราไม่สามารถตัดสินพระองค์ และกล่าวว่า พระองค์เป็นอย่างนี้หรืออย่างนั้นได้ ที่จริงแล้ว พระองค์นั้นยิ่งใหญ่มาก แต่ก็ “เล็ก” มากเช่นกัน พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าสูงสุด และพระองค์ยังต่ำที่สุดด้วย ทุกสิ่งเป็นของพระเจ้า และพระเจ้าอยู่ในทุกสิ่ง (เมื่อเร็ว ๆ นี้ ฉันเห็นรูปถ่ายในนิตยสารไทม์ เกี่ยวกับโซมาเลีย ฉันเห็นแล้วเสียใจมากเลยค่ะ) โซมาเลียหรือ? (โซมาเลียค่ะ) (โซมาเลียค่ะ...) โอ ใช่ ใช่ ใช่แล้ว สงคราม (ใช่ค่ะ สงคราม ในพื้นที่ด้อยพัฒนาแห่งนั้น) ใช่ ๆ (เด็ก ๆ ตรงนั้นกำลังอดอาหาร) ฉันเข้าใจ (รูปภาพแสดงให้เห็น เด็กน้อยกำลังดูดนมแม่ โดยหลับตา และมีแมลงวันเกาะเต็มตา ถ้าพระเจ้าทรงมีปัญญา ในการสร้างมนุษย์…) อะไรนะ? ตาเขาปิดหรือคะ? (เขากำลังดูดนมแม่ของเขาอยู่) เข้าใจ ๆ ๆ (ใช่ ความรู้สึกของฉัน หลังจากเห็นภาพนี้คือ ถ้าพระเจ้าสร้างมนุษย์ขึ้นมา ทำไมถึงต้องสร้างความหิวโหยและ ความทุกข์ทรมานมากมายด้วยคะ?) ฉันจะบอกอะไรคุณได้? เราเองที่ขอความทุกข์ มันก็เป็นแบบนั้นจริง ๆ แต่ตัวเราเองก็เป็นพระเจ้าด้วย เพราะพระเจ้าอยู่ในตัวเรา จริง ๆ แล้ว เรามีสองทางเลือก ตั้งแต่โลกเริ่มต้นขึ้น จนถึงปัจจุบัน... ฉันไม่ได้พูดถึงวันนี้ เพราะเราไม่ได้ แค่เกิดมาวันนี้เท่านั้น ทุกสิ่งทุกอย่างที่เราสร้างขึ้น รวมถึงถนนและบ้านเรือน ไม่ได้ถูกสร้างขึ้นในวันเดียว สิ่งที่เรากำลังพูดถึงอยู่นี้คือ ตั้งแต่โลกถือกำเนิดขึ้น เรามีทางเลือกมากมาย ระหว่างการทำความดี และความชั่ว บางครั้งเราเลือกที่จะทำความดี และเพราะเราทำความดี โลกจึงมีสิ่งดี ๆ เช่น พระราชวัง ที่สวยงาม ผู้คนดี และสถานการณ์ที่มีความสุข แต่บางครั้งเราก็เลือกที่จะ ทำสิ่งที่ไม่ดี นับตั้งแต่เริ่มกาลเวลา กรรมได้สะสมไปเรื่อย ๆ ชาติแล้วชาติเล่า ไม่ใช่เพียงวันนี้ เท่านั้น ดังนั้นสิ่งดี ๆ ใด ๆ ที่เรามีในปัจจุบัน ก็เป็นเพราะมนุษย์เราเลือกสิ่งที่ดี มาตั้งแต่เริ่มสร้างโลก ส่วนความทุกข์ หรือความผิดหวัง ที่เราประสบอยู่ขณะนี้ เป็นเพราะชาติแล้วชาติเล่า มนุษย์เราเลือกที่จะทำความชั่ว นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมโลกของเรา จึงวุ่นวาย บางสถานที่ก็ดี บางสถานที่ก็แย่ ฉะนั้นหากเราไม่อยาก จะต้องทุกข์อีกต่อไป เราก็ต้องหันกลับมา ทำแต่ความดี ซึ่งเป็นสิ่งที่ฉันสอน หากคุณทำแต่ความดี คุณจะได้รับแต่สิ่งดี ๆ ในอนาคต (แล้วชาวโซมาเลีย ละคะ?) เมื่อถึงเวลาของพวกเขา พวกเขาจะตื่นขึ้น พวกเขาจะเบื่อหน่ายกับความทุกข์ (แต่พวกเขาไม่สามารถได้ยิน สิ่งที่ท่านกำลังพูด) พวกเขาได้ยิน พวกเขาได้ยิน (พวกเขาจะได้ยินท่านได้อย่างไรคะ ท่านไม่ได้ไปที่โซมาเลีย) ไม่จำเป็น พวกเขาสามารถได้ยิน สิ่งที่ฉันกำลังพูดอยู่ที่นี่ จิตวิญญาณของพวกเขาได้ยินมัน จิตวิญญาณของเราอยู่ทุกหนทุกแห่ง จิตวิญญาณไม่จำเป็นต้องมีภาษา เพื่อสื่อสาร ไม่จำเป็นต้องมีไมโครโฟน หรือโทรทัศน์ เหล่านั้นเป็นเพียงเรื่องของจิตใจ สิ่งที่ฉันพูดที่นี่ พวกเขาที่โซมาเลียก็สามารถได้ยิน แต่ยังไม่ถึงเวลาของพวกเขา เมื่อถึงเวลาของพวกเขา พวกเขา... พวกเขาได้ยินเรื่องนี้แล้ววันนี้ เมล็ดพันธุ์ได้ถูกหว่านลงไป และมันก็เริ่มที่จะงอกแล้ว หลังจากนั้นอีกหลายปี หรือในชีวิตหน้า ฉันจะไปพูดคุยกับพวกเขาโดยตรง หรือพาพวกเขาไปด้วยกับฉัน หรืออาจารย์ท่านอื่น ๆ จะมาช่วยพวกเขา มันเป็นเพียงเรื่องของเวลา เพราะเหตุนี้ อาจารย์ผู้รู้แจ้งในโลกนี้ จึงมีประโยชน์ต่อทั้งโลก ฉันไม่ได้แค่พูดกับคุณเท่านั้น ทั้งโลกสามารถได้ยินฉัน จิตใต้สำนึก ของพวกเขาสามารถได้ยินฉัน แต่ไม่ใช่จิตใจของพวกเขา (มนุษย์ต่างดาวจะได้ยินท่านไหมคะ) พวกเขาได้ยิน (หากมนุษย์ต่างดาวไม่ได้อยู่ ในระบบสุริยะนี้ หรือไม่ได้ อยู่ในกาแล็กซีทางช้างเผือก พวกเขาจะได้ยินท่านได้อย่างไรคะ เขาก็ใช้สิ่งที่เรียกว่า “หัวใจ” ในการฟังเหมือนกันใช่ไหมคะ?) จิตวิญญาณ จิตวิญญาณ - เราคือ จิตวิญญาณ เดิมทีเราทุกคนต่างก็ อยู่ในระบบเดียวกัน เราไม่ใช่... อย่างเช่น เท้า มือ และเล็บของคุณ ล้วนเป็นส่วนหนึ่งของตัวคุณ แต่ว่ามดมีขนาดเล็กมาก มันมองเห็น ได้แค่เพียงมือของคุณเท่านั้น ไม่ สามารถมองเห็นทั้งร่างกายของคุณ ในทำนองเดียวกัน เนื่องจากตอนนี้ เราถูกความไม่รู้ปกคลุมอยู่ เราจึงมองเห็นตัวเอง เป็นเพียงปัจเจกบุคคลเท่านั้น เราไม่รู้ว่า มี "ระบบการเชื่อมต่อ" บางอย่าง ที่เชื่อมโยงจักรวาลทั้งหมด เข้าด้วยกัน ดังนั้นเราทุกคนจึงเชื่อมโยงกัน เพราะเหตุนี้ ในพระพุทธศาสนา จึงกล่าวว่ามี “กรรมร่วม” หมายความว่าหากคนหนึ่งหรือ สองคนทำอะไรบางอย่าง คนอื่นๆ อีก มากมายก็จะได้รับผลกระทบไปด้วย มันเกิดขึ้นจริง ๆ! ในไบเบิ้ลกล่าวไว้ว่า กษัตริย์เดวิด... คุณรู้จักกษัตริย์เดวิดไหม? ท่านทำสิ่งที่ผิด และพระเจ้าก็ลงโทษเขา และประเทศของเขาทั้งหมด เป็นเวลาสามหรือสี่วัน กษัตริย์เดวิด ทรงทำสิ่งที่ผิด และส่งผลกระทบต่อทั้งประเทศ เป็นเวลาหลายวัน เช่นเดียวกันในศาสนาพุทธ และศาสนาคริสต์ เพียงเพื่อพิสูจน์ให้ คุณเห็นว่าเราเป็นหนึ่งเดียวกัน Photo Caption: ไม่ใช่แค่หน้าสวย แต่ยังมีประโยชน์!